เตรียมพร้อมอย่างไร ?
หากอยากอยู่บ้านในยามชรา
แนวคิดการชราในถิ่นที่อยู่เดิม (Aging in Place) นโยบายเพื่อการเตรียมพร้อมด้านที่อยู่อาศัยและ บริการทางสังคมสำหรับผู้สูงอายุ
ปัจจุบันประเทศไทยมีนโยบายที่รองรับ สังคมผู้สูงวัยที่โดดเด่นด้านสุขภาพ แต่ยังขาดการพัฒนามิติด้านที่อยู่อาศัยและสังคม ซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน
ส่งผลให้ผู้สูงอายุส่วนหนึ่ง ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย ขาดการซ่อมแซมและไม่มีรูปแบบที่เหมาะสม ใช้ชีวิตได้ยากลำบากหากต้องอยู่ลำพัง
คงจะดี หากผู้สูงอายุสามารถเลือกอยู่ที่บ้าน หรือที่อยู่อาศัยเดิมได้นานที่สุดเท่าที่ต้องการ ได้อย่างสะดวกปลอดภัย
แม้ว่าจะมีสภาวะทางร่างกาย สังคมและจิตใจที่ค่อยๆ เสื่อมถอยจากความชรา
ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะมีความรู้สึกเชิงบวกต่อการดำรงชีวิต หากสามารถอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเองได้ต่อเนื่อง
เพราะ ”บ้าน” คือพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย มีสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ผู้สูงอายุคุ้นเคย ลดความกังวลด้านจิตใจ ส่งผลดีต่อการดูแลรักษาสุขภาพ ควบคุมโรค และคุณภาพชีวิต
ตอบสนองการดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย
ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในทุกปี
สามารถลดการพึ่งพิงสถานบริบาลที่มีค่าใช้จ่ายมาก ทั้งงบประมาณภาครัฐและของผู้สูงอายุเอง
ผู้สูงอายุ 11 ล้านคน
บ้านพักคนชราของรัฐท้ั้งประเทศ
12 แห่ง
ปัจจุบัน ไทยมีศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุของรัฐเพียง 12 แห่ง
ขณะที่ประชากรผู้สูงอายุทั่วประเทศมีมากกว่า 11 ล้านคน**
** ข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุ
แต่ยังมีความท้าทายที่ต้องฝ่าฟัน
เพื่อให้เกิดนโยบายที่ตอบโจทย์
ขาดการบูรณาการ ระหว่างบริการทางสุขภาพและสังคม ทั้งในด้านการวางแผน การส่งต่อทรัพยากรและข้อมูล การกำหนดมาตรฐาน และตรวจสอบคุณภาพ
อุปสรรคด้านข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งอำนาจหน้าที่ และ งบประมาณ
ขาดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน/กลไกที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดบริการสำหรับผู้สูงอายุ
ขาดบริการทางสังคมอย่างเป็นระบบ ภาคส่วนความร่วมมือ รูปแบบ และประเภทของการบริการไม่หลากหลาย
ทำอย่างไร?
เพื่อให้เกิดนโยบายที่ตอบสนองแนวคิด
Aging in Place อย่างมีคุณภาพ หลากหลาย และทั่วถึง
บ้านหรือที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม | ชุดบริการที่จำเป็นเพื่ออาศัยในถิ่นที่อยู่เดิมอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ในบริบทสังคมไทย | สร้างความร่วมมือและบูรณาการระหว่างรัฐบาล องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ชุมชน และภาคประชาสังคม ผ่านโมเดลการทำงานรูปแบบใหม่
โดยแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อย่อย
การพัฒนาชุดบริการสำคัญที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้สูงอายุในการใช้ชีวิตในถิ่นที่เดิม (Aging in Place)
การปรับการจัดการและบทบาทการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการจัดบริการสำหรับผู้สูงอายุที่บ้านที่เหมาะสมกับบริบทของไทย
การพัฒนาชุดบริการสำคัญที่ตอบสนองต่อ ความต้องการของผู้สูงอายุในการใช้ชีวิต ในถิ่นที่เดิม (Aging in Place)
ข้อเสนอระยะสั้น
การจัดทำกรอบแนวคิดชุดบริการสำคัญสำหรับผู้สูงอายุในบริบทไทย
ข้อเสนอระยะกลาง
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินอุดหนุนด้านการจัดบริการสำหรับผู้สูงอายุ
ข้อเสนอระยะยาว
ผลักดันให้มีหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ในฐานะเจ้าภาพการจัดบริการทางสังคมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
การปรับการจัดการและบทบาทการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการจัดบริการสำหรับผู้สูงอายุที่บ้านที่เหมาะสมกับบริบทของไทย
ข้อเสนอ 1
ข้อเสนอแนะเพื่อส่งเสริมบทบาทการทำงานด้านผู้สูงอายุขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น
สิ่งที่เกิดขึ้นจาก
กระบวนการ
Policy dialogue ไม่ได้มีแต่ผลลัพธ์เชิงเนื้อหา แต่ยังสามารถสร้างคุณค่าในการผลักดันเชิงนโยบาย
ผู้เข้าร่วมแสดงความสนใจและอยากผลักดันต่อ
ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐที่มาร่วม มีความเปิดกว้างต่อการรับแนวคิดใหม่ พยายามหาแนวทางในการพัฒนาบทบาทของหน่วยงานในการส่งเสริมงานด้านผู้สูงอายุ
เปิดโอกาสการเรียนรู้ระหว่างพื้นที่
ทั้งจากผู้ปฏิบัติงาน ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ รวมไปถึงญาติผู้ป่วยระยะประคับประคอง และตัวแทนระดับเขตสุขภาพ เพื่อนำไปปรับปรุง ปรับใช้กับหน่วยงาน ชุมชน หรือส่วนของตนเอง
เกิดพื้นที่คลายข้อสงสัยระหว่างหน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่น
เปิดพื้นที่ให้ อปท. ได้มีโอกาสพูดคุยโดยตรงกับตัวแทนจากหน่วยงานนโยบาย หลายท่านสะท้อนว่าเป็นประโยชน์ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ค่อยมีโอกาสได้สื่อสารโดยตรง กระบวนการนี้ทำให้ได้รับฟังความเห็นระหว่างกันและกัน และได้คลายความสงสัยในหลายปัญหาข้อติดขัด
ได้ประเด็นที่สมควรศึกษาวิจัยต่อเพื่อพัฒนานโยบาย
ได้หัวข้อสิ่งที่น่าจะนำไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อช่วยกำหนด กรอบนโยบายต่อไปได้ เช่น การจัดการทรัพยากรในแต่ละพื้นที่
ข้อเสนอเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้อง
จากการสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้มาจากกระบวนการที่ใช้วิธีการอันหลากหลาย จึงเกิดเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายขึ้น